หน้าแรก Applications ทิปเทคนิค : วิธีเปิดใช้งานและตั้งค่า Network Protection บน Windows เพื่อป้องกันมัลแวร์จากอินเทอร์เน็ต

ทิปเทคนิค : วิธีเปิดใช้งานและตั้งค่า Network Protection บน Windows เพื่อป้องกันมัลแวร์จากอินเทอร์เน็ต

Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่มีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่โลกอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยมัลแวร์ที่สามารถคุกคามอุปกรณ์ของคุณได้หากไม่ระมัดระวัง วิธีหนึ่งในการเพิ่มความปลอดภัยคือการใช้ ฟีเจอร์ป้องกันในตัวของ Windows เช่น Microsoft Defender และ SmartScreen

คุณอาจคุ้นเคยกับ SmartScreen ซึ่งช่วยตรวจสอบเว็บไซต์และไฟล์ที่ดาวน์โหลดเพื่อแจ้งเตือนหากพบเนื้อหาที่น่าสงสัยหรืออันตราย อย่างไรก็ตาม SmartScreen ส่วนใหญ่ทำงานร่วมกับ Microsoft Edge ทำให้ความสามารถในการป้องกันมีข้อจำกัดเมื่อต้องใช้งานแอปพลิเคชันอื่น ๆ

Network Protection คืออะไร?

Network Protection เป็นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ทำงานในระดับระบบของ Windows โดยคอยตรวจสอบการรับส่งข้อมูลเครือข่ายจากทุกแอปและกระบวนการในระบบ ฟีเจอร์นี้จะเปรียบเทียบข้อมูลอินเทอร์เน็ตกับฐานข้อมูลของ Microsoft เพื่อตรวจหาความเสี่ยงจากเว็บไซต์และไฟล์อันตราย

สามารถกล่าวได้ว่า Network Protection ทำหน้าที่คล้ายกับ SmartScreen แต่มีขอบเขตการป้องกันที่กว้างกว่า

ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของคุณรองรับ Network Protection หรือไม่

Network Protection จะสามารถใช้งานได้ก็ต่อเมื่อมีเงื่อนไขต่อไปนี้:
ใช้ Windows 10 หรือ 11 เวอร์ชัน Pro หรือ Enterprise (ไม่รองรับใน Windows Home)
Microsoft Defender เปิดใช้งานอยู่
ลงชื่อเข้าใช้ Windows ด้วยบัญชี Microsoft
สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและเข้าถึงเว็บไซต์ได้

1. เปิด PowerShell ด้วยสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ

  1. คลิกขวาที่ เมนู Start
  2. เลือก Terminal (Admin) หรือ Windows PowerShell (Admin)

2. ตรวจสอบสถานะของ Network Protection

พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้ใน PowerShell แล้วกด Enter:

Get-MpPreference | Select-Object EnableNetworkProtection

ระบบจะแสดงค่าปัจจุบันของ Network Protection ดังนี้:

  • 0 = ปิดใช้งาน (Disabled)
  • 1 = เปิดใช้งาน (Enabled)
  • 2 = โหมดตรวจสอบ (Audit Mode)

หากค่าที่แสดงเป็น 0 ให้ทำตามขั้นตอนถัดไปเพื่อเปิดใช้งาน

3. เปิดใช้งาน Network Protection

พิมพ์คำสั่งต่อไปนี้เพื่อเปิด Network Protection:

Set-MpPreference -EnableNetworkProtection Enabled

คำสั่งนี้จะไม่มีข้อความตอบกลับ แต่คุณสามารถตรวจสอบสถานะอีกครั้งโดยใช้คำสั่งเดิม และค่าควรเปลี่ยนเป็น 1

4. ปิดใช้งาน Network Protection (หากต้องการปิดในภายหลัง)

หากต้องการปิด Network Protection ให้ใช้คำสั่ง:

Set-MpPreference -EnableNetworkProtection Disabled

คำเตือนเกี่ยวกับ Network Protection

⚠️ Network Protection อาจทำให้แอปบางตัวทำงานผิดปกติ หากคุณกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ให้ลองใช้ Audit Mode ก่อน แล้วตรวจสอบ Windows Event Log หากไม่มีปัญหาหลังจากใช้งานไปสักระยะ คุณสามารถเปลี่ยนเป็น Block เพื่อเปิดใช้งานการป้องกันอย่างเต็มรูปแบบ

สรุป

Network Protection เป็นฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากมัลแวร์และเว็บไซต์อันตราย โดยสามารถเปิดใช้งานผ่าน PowerShell และปรับแต่งเพิ่มเติมผ่าน Group Policy Editor แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเป็นค่าเริ่มต้น แต่การตั้งค่านี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับ Windows ได้อย่างมาก อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการความปลอดภัยสูงสุด แนะนำให้เปิด Network Protection ในโหมด Block เพื่อป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์อันตราย และลดความเสี่ยงจากมัลแวร์บนอินเทอร์เน็ต