อินเทล กำลังแข่งขันกับเวลาเพื่อเฟ้นหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ ที่จะสามารถนำพาบริษัทเข้าสู่ยุคของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI หรือไม่เช่นนั้นบริษัทอาจเสี่ยงที่จะกลายเป็นองค์กรที่ไร้ความสำคัญในตลาด
ความผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000 และความล้มเหลวในการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัย ได้ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตชิปที่เคยเป็นผู้นำตลาดต้องเผชิญกับจุดตกต่ำครั้งใหญ่ในปี 2024 เมื่อหุ้นของบริษัทร่วงลงถึง 55%
ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการของอินเทลได้ปลด แพต เกลซิงเกอร์ ออกจากตำแหน่งซีอีโอ และแต่งตั้งซีอีโอชั่วคราวร่วมสองคน การตัดสินใจนี้เผยให้เห็นถึงการขาดกลยุทธ์ที่ชัดเจนของคณะกรรมการ อีกทั้งยังทำให้แผนการเปลี่ยนแปลงองค์กรครั้งใหญ่ของเกลซิงเกอร์ถูกตั้งคำถาม โดยเฉพาะแผนการเปิดธุรกิจการผลิตของอินเทลเพื่อผลิตชิปให้กับลูกค้าภายนอก หรือที่เรียกว่าการดำเนินงานแบบโรงหล่อ (Foundry)
วิลเลียม ลาซอนิก นักวิเคราะห์ที่เขียนบทความเกี่ยวกับอินเทลให้กับสถาบันวิจัยเศรษฐศาสตร์ใหม่ กล่าวว่า “ผมคิดว่าควรจะเป็นคณะกรรมการที่ถูกปลดออก ไม่ใช่เขา”
ตั้งแต่การลาออกของเกลซิงเกอร์ คณะกรรมการได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านเซมิคอนดักเตอร์สองคนเข้าร่วมงาน ได้แก่ เอริค เมอร์ริส อดีตซีอีโอของ ASML และสตีฟ แซงฮี ประธานบริษัท Microchip ก่อนที่ทั้งสองจะเข้ามา มีเพียงสองคนจาก 11 คนในคณะกรรมการที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ตามรายงานของคริสโตเฟอร์ แดนลีย์ นักวิเคราะห์จาก Citi
นักวิเคราะห์ที่ไม่เปิดเผยชื่อระบุว่า เมอร์ริสและแซงฮีได้เริ่ม “ตั้งคำถามต่อแผนงานและกระบวนการภายในอินเทล” อย่างไรก็ตาม อินเทลปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับการค้นหาซีอีโอคนใหม่ ในกระบวนการค้นหาซีอีโอคนใหม่ ผู้สมัคร 10 คนถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในวงการ
อินเทลกำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญที่จะต้องตัดสินใจเลือกผู้นำที่จะพาบริษัทฝ่าฟันวิกฤตและแข่งขันในอุตสาหกรรมชิปที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากพลาดโอกาสครั้งนี้ อนาคตของบริษัทอาจตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – Yahoo!