สำนักสอบสวนแห่งกระทรวงยุติธรรมไต้หวันเปิดเผยว่า บริษัทเทคโนโลยีของจีนได้จัดตั้งบริษัทในไต้หวันโดยแฝงตัวให้ดูเหมือนไม่มีความเชื่อมโยงกับจีน เพื่อดึงดูดบุคลากรด้านเทคโนโลยีชั้นนำให้เข้าทำงานในโครงการสำคัญ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายที่จำกัดการลงทุนและการจ้างงานโดยบริษัทจีนในไต้หวัน
สำนักสอบสวนระบุว่า จีนหลีกเลี่ยงมาตรการป้องกันดังกล่าวโดยใช้กลยุทธ์ซับซ้อนในการปกปิดความเป็นเจ้าของของบริษัท หนึ่งในบริษัทเหล่านั้นคือ Yunhe Zhiwang (Shanghai) Technology Co., Ltd ซึ่งพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ระดับสูง โดยรายงานระบุว่าชิปของบริษัทนี้ถูกใช้ในยุทธศาสตร์ “Data East, Compute West” ของจีนที่ประกาศในปี 2022 โดยมีเป้าหมายในการย้ายเซิร์ฟเวอร์จำนวนห้าล้านแร็กจากเมืองใหญ่ทางตะวันออกของจีนไปยังศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ใกล้แหล่งพลังงานหมุนเวียนทางตะวันตก ขณะที่ศูนย์ข้อมูลในภาคตะวันออกจะใช้สำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการความหน่วงต่ำ ส่วนงานประมวลผลที่ใช้พลังงานสูงจะกระจุกตัวอยู่ทางตะวันตก
จากการสอบสวนพบว่า พนักงานจาก Intel และ Microsoft ถูกล่อลวงให้ทำงานกับ Yunhe Zhiwang ซึ่งปกปิดความเป็นเจ้าของที่แท้จริงโดยดำเนินงานผ่านบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ นอกจากนี้ Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของจีน ยังถูกกล่าวหาว่าใช้บริษัทที่จดทะเบียนในซามัวเพื่อสร้างฐานปฏิบัติการในไต้หวันและจ้างบุคลากรท้องถิ่น
สิ่งที่น่ากังวลคือ SMIC อยู่ใน “entity list” ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นรายชื่อองค์กรที่ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ สหรัฐฯ มักแสดงท่าทีแข็งกร้าวเมื่อพบว่าประเทศพันธมิตรหรือมิตรสหายมีความร่วมมือกับบริษัทที่อยู่ในบัญชีดังกล่าว
การเปิดโปงครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการเข้าถึงบุคลากรด้านเทคโนโลยีของไต้หวันผ่านช่องทางที่ซับซ้อน และเป็นการละเมิดกฎหมายของไต้หวัน ซึ่งอาจนำไปสู่มาตรการเข้มงวดขึ้นในการป้องกันการล่อลวงบุคลากรและการลงทุนที่แฝงจากจีนในอนาคต
รายละเอียด – Theregister