เอปสันเปิดยุทธศาสตร์รุกตลาดปี 68 เน้นทุกจุด บุกทุกตลาด ด้วยการสร้างตลาดใหม่และเพิ่มไลน์สินค้า เพิ่มประสิทธิภาพช่องทางจำหน่ายเพื่อรองรับ B2B และ B2C เสริมแกร่งงานบริการด้วยเทคโนโลยีทันสมัย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์และธุรกิจด้วยคุณค่าด้านความยั่งยืนและ ESG พร้อมตั้งเป้าเติบโตต่อในปีหน้าไม่ต่ำกว่า 6%
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินงานในปี 2567 ว่า บริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 5% สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของโครงสร้างระบบการขายของเอปสันในกลุ่ม B2B ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพท่ามกลางปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักที่มีการเติบโตมากที่สุด ได้แก่ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทสำหรับองค์กร กลุ่ม WorkForce Enterprise เครื่องพิมพ์ EcoTank เครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม กลุ่ม T-Series และโปรเจคเตอร์ นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา เอปสันยังสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องพิมพ์ EcoTank ที่มีส่วนแบ่ง 43% ในตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์แท็งค์ ขณะที่ในตลาดโปรเจคเตอร์ เอปสันยังคงแข็งแกร่งด้วยส่วนแบ่งรวม 52% ส่วนเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ในกลุ่ม Photo Proof ครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่งที่ 32% เช่นเดียวกับกลุ่มเครื่องพิมพ์ป้ายและเครื่องพิมพ์สิ่งทอที่ครองส่วนแบ่งตลาด 30% เท่ากัน”
“ปี 2568 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ ซึ่งมีทั้งสนับสนุนและท้าทายการเติบโตทางธุรกิจของเอปสัน โดยหนึ่งในเทรนด์หลักคือ Digital Transformation ในองค์กรภาครัฐ ที่กระตุ้นความต้องการโซลูชันการพิมพ์และโปรเจคเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง อีกทั้งเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพที่กำลังขยายตัวจะเพิ่มความต้องการโซลูชันการพิมพ์ที่คุ้มค่าและประหยัดต้นทุนมากขึ้น นอกจากนี้ กรอบแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ หรือ ESG (Environment, Social, Governance) จะช่วยเร่งให้ธุรกิจในประเทศไทยปรับตัวสู่การพิมพ์อย่างยั่งยืนมากขึ้น ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน อีคอมเมิร์ซที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดย เฉพาะยอดขายสินค้าไอทีทางออนไลน์ที่เติบโตเร็วกว่าช่องทางออฟไลน์ ต้องเริ่มเผชิญกับต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากแพลทฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ต่างปรับขึ้นค่าธรรมเนียมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่ต้องจับตา โดยเฉพาะนโยบาย Trump 2.0 ที่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย การลงทุนและการย้ายฐานการผลิตของต่างชาติในประเทศไทย”
“เอปสันได้ตั้งเป้าเติบโตของปี 2568 อยู่ที่ 6% โดยมีกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทสำหรับองค์กรที่คาดว่าจะโดดเด่นที่สุด บริษัทฯ ยังคงขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าด้วยแนวทางในการปรับตัว (Adaptability) และการก้าวนำตลาดอย่างต่อเนื่อง (Stay Ahead) ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1) Innovation Offering หรือการนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า 2) Agility in Channel หรือการเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการช่องทางการจัดจำหน่าย 3) Enhanced Customer Service หรือการยกระดับประสบการณ์และความพึงพอใจของลูกค้า และ 4) Value Creation หรือ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อให้เอปสันสามารถขับเคลื่อนการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และรักษาความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องพิมพ์ โปรเจคเตอร์ และโซลูชันทางธุรกิจ” นายยรรยง กล่าว