ในปี 2025 ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Amazon, Meta และ Google กำลังเร่งลงทุนพัฒนาเครือข่ายสายเคเบิลใต้ทะเล เพื่อเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารและรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นขององค์กรธุรกิจ
Amazon Ireland ได้ยื่นขอใบอนุญาตเพื่อลงสายเคเบิลที่เชื่อมต่อไอร์แลนด์กับสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน Meta กำลังวางแผนสร้างเครือข่ายสายเคเบิลใต้ทะเลระดับนานาชาติ และ Google คาดว่าจะขยายโครงสร้างพื้นฐานใต้ทะเลที่มีอยู่ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
Amazon เตรียมขยายเครือข่ายเชื่อมไอร์แลนด์-สหรัฐฯ
ในเดือนมกราคม 2025 Roderick Beck ผู้ดำเนินการบริษัท Luminous Real Estate and Telecom OU เปิดเผยผ่าน LinkedIn และบล็อกส่วนตัวว่า Amazon Ireland ได้ยื่นขอใบอนุญาตเพื่อลงจอดสายเคเบิลใต้ทะเลเชื่อมต่อระหว่างไอร์แลนด์และสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม Amazon ยังไม่ได้ออกมายืนยันโครงการนี้อย่างเป็นทางการ
Google เดินหน้าลงทุนในโครงข่ายใต้ทะเล
Google ถือเป็นผู้ลงทุนและเจ้าของเครือข่ายสายเคเบิลใต้ทะเลรายใหญ่ที่สุดของโลก ตามข้อมูลจาก Submarine Networks โดยระหว่างปี 2016-2018 บริษัทได้ทุ่มงบประมาณกว่า 47 พันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน Google Cloud ขยายจุดให้บริการเป็น 134 แห่ง และลงทุนในโครงการสายเคเบิลใต้ทะเล 14 โครงการทั่วโลก
ในปี 2020 Google ประกาศโครงการสายเคเบิลใต้ทะเล Grace Hopper เชื่อมต่อสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และสเปน ต่อมาในปี 2023 ได้เปิดตัวโครงการสายเคเบิลข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก Nuvem เชื่อมต่อโปรตุเกส เบอร์มิวดา และสหรัฐฯ ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2024 Google เปิดเผยแผนโครงการ Australia Connect ซึ่งต่อยอดจากโครงสร้างพื้นฐาน Pacific Connect ที่มีอยู่
Meta วางแผนสร้างเครือข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสงระดับโลก
Meta บริษัทแม่ของ Facebook, Instagram และ WhatsApp ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนการใช้งานอินเทอร์เน็ตรายใหญ่อันดับสองของโลก กำลังเดินหน้าแผนการสร้างสายเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้ทะเลที่ครอบคลุมทั่วโลก
รายงานจาก TechCrunch ในเดือนพฤศจิกายน 2024 ระบุว่า Meta เตรียมทุ่มงบประมาณสูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างเครือข่ายสายเคเบิลที่มีความยาวกว่า 40,000 กิโลเมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม – NWC