หน้าแรก Artificial Intelligence เดลล์ ชี้ ปี 2025 จะเป็นการมาของ Agentic AI และ Sovereign AI

เดลล์ ชี้ ปี 2025 จะเป็นการมาของ Agentic AI และ Sovereign AI

เดลล์ เทคโนโลยีส์ จัดงาน Prediction 2025 ผ่านออนไลน์ ได้เน้นย้ำถึงแนวโน้มเกิดใหม่ที่กำลังเข้ามาพลิกโฉมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในปี 2025 และปีถัดไป นำเสนอโดย จอห์น โรส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีระดับโลก และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่าย AI ของเดลล์ เทคโนโลยีส์ พร้อมด้วย ปีเตอร์ มาร์ส ประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ญี่ปุ่น และจีน

การเติบโตของสถาปัตยกรรม Agentic AI

Agentic AI คือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI “Agentic จะเป็นคำแห่งปี 2025 โดยเป็นความก้าวหน้าในการกำหนดทิศทางของเทคโนโลยี AI และจะเป็นตัวเร่งให้เกิดความก้าวหน้าที่สำคัญต่อแนวทางการออกแบบสถาปัตยกรรม AI” การพัฒนาของ Generative AI ทำให้เกิดเอเจนต์ AI อัจฉริยะที่สามารถทำงานซับซ้อนได้แบบอัตโนมัติ สื่อสารด้วยภาษาธรรมชาติ และทำงานร่วมกับมนุษย์และเอเจนต์ AI อื่นๆ ได้อย่างราบรื่น โดยเอเจนต์ AI ที่มีความชำนาญเฉพาะทางเหล่านี้จะมีทักษะการทำงานที่หลากหลาย

กลยุทธ์ความสำเร็จของการขยาย AI ในองค์กร

องค์กรต่างๆ กำลังให้ความสำคัญกับผลตอบแทนจากการลงทุนที่จับต้องได้และมูลค่าทางธุรกิจจากโครงการความริเริ่มด้าน AI มากขึ้น มีการจัดตั้งคณะกรรมการด้าน AI โดยเฉพาะที่นำโดยประธานเจ้าหน้าที่ด้าน AI หรือประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ (CIO) แนวทางที่เน้นการปฏิบัติได้จริงนี้สะท้อนให้เห็นอัตราความสำเร็จที่เพิ่มขึ้นของโครงการนำร่อง GenAI

การนำ Sovereign AI มาใช้เพื่อสร้างนวัตกรรม

หลายประเทศมีความพยายามมากขึ้นในการพัฒนา Sovereign AI หรือปัญญาประดิษฐ์แบบพึ่งพาตนเอง เพื่อสร้างระบบนิเวศ AI ในท้องถิ่นที่สอดคล้องกับวัฒนธรรม ภาษา และความต้องการด้านความปลอดภัยของข้อมูล โดยแนวคิดดังกล่าวมุ่งเน้นที่ความสามารถของประเทศในการสร้างคุณค่าและความแตกต่างด้าน AI โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานและข้อมูลของตนเอง มาช่วยส่งเสริมระบบนิเวศที่สะท้อนถึงทรัพย์สินทางปัญญาของท้องถิ่นและการให้ความสำคัญ

การผสานรวม AI กับเทคโนโลยีอื่น

การผสานรวมของ AI เข้ากับความก้าวหน้าในด้านต่างๆ เช่น ควอนตัม คอมพิวติ้ง (Quantum Computing) อินเทลลิเจนท์ เอดจ์ (Intelligent Edge) และการรักษาความปลอดภัยแบบ ซีโร่ ทรัสต์ (Zero Trust) เทคโนโลยี 6G และดิจิทัล ทวิน (Digital Twins) การผสานขุมพลังของควอนตัม คอมพิวติ้ง และ AI จะเป็นตัวพลิกโฉมให้กับหลายอุตสาหกรรม การให้พลังการประมวลผลที่จำเป็นจะช่วยให้นำ AI ไปใช้ในสาขาที่ซับซ้อน อย่างเช่น วิทยาศาสตร์วัสดุ การคิดค้นยา และในการแก้ไขปัญหาได้เหมาะสมที่สุด

วิวัฒนาการของ AI ที่กำลังพลิกโฉมคนทำงาน

ผลกระทบที่เปลี่ยนแปลงของ AI ต่อตลาดแรงงาน ซึ่งต้องการให้องค์กรลงทุนในการพัฒนาความเชี่ยวชาญด้าน AI ของบุคลากร เมื่อเอเจนต์ AI สามารถจัดการกับงานประจำได้มากขึ้น บทบาทของมนุษย์จะพัฒนาไปสู่การคิดเชิงกลยุทธ์ในระดับที่สูงขึ้น รวมถึงการแก้ปัญหาในเชิงสร้างสรรค์ และการตัดสินใจที่ซับซ้อน โดยที่ AI กำลังสร้างงานใหม่ในระดับสูง และเป็นตัวเร่งที่ทำให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่ในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งส่งผลกระทบเชิงบวกอย่างมหาศาลต่อการสร้างงาน